วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Chocolate Lana

Chocolate Lana นี้เนื้อเค้กเป็น ชิฟฟ่อน นะคะ เริ่มจากเตรียมส่วนผสมต่างๆ แบ่งเป็น 3 กลุ่มตามนี้ค่ะ

ส่วนผสมที่ 1

  • - แป้งสาลีทำเค้ก 160 กรัม
  • - วนิลาผง ¼ ช้อนชา
  • - โกโก้ผง 50 กรัม
  • - เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • - เกลือป่น ½ ช้อนชา
  • - น้ำตาลทราย 200 กรัม

ส่วนผสมที่ 2

  • - ไข่แดง 4 ฟอง
  • - น้ำ 100 กรัม
  • - นมข้มจืด 50 กรัม + น้ำมะนาว 2 ช้อนชา (ผสมให้เข้ากันไว้ก่อนเลย)
  • - น้ำมันพืช 125 กรัม

ส่วนผสมที่ 3

  • - ไข่ขาว 4 ฟอง
  • - ครีมออฟทาทาร์ ½ ช้อนชา
  • - น้ำตาลทราย 100 กรัม

วิธีทำ

  1. 1. นำส่วนผสมที่ 1 มาร่อนเข้าด้วยกัน แต่ยกเว้นน้ำตาลนะ ให้เอามาผสมรวมที่หลังเพราะมันร่อนไม่ผ่าน แล้วพักไว้
  2. 2. จากนั้นนำส่วนผสมที่ 2 ทั้งหมดมาผสมกันในชาม คนให้เข้ากัน
  3. 3. จากนั้นเทส่วนผสมที่1 ลงในชามของเหลวของส่วนผสมที่ 2 นะคะ คนให้เข้ากัน แล้วพักไว้
  4. 4. ทำส่วนผสมที่ 3 มา โดยนำไข่ขาวและครีมออฟทาทร์ใส่โถปั่น ใช้หัวตะกร้อปั่นด้วยความเร็วสูงสุดเลยนะ เป็นเวลา 30 วินาที จากนั้นค่อยๆใส่น้ำตาลของส่วนผสมที่ 3 ลงไปแล้วปั่นด้วยความเร็วสูงสุดต่อไปอีก 90 วินาที ตรวจสอบดูว่าไข่ขาวตั้งยอดหรือยัง (ตั้งยอดคือ เมื่อลองถอดหัวปั่นตะกร้อออกมาแล้วมียอดแหลมๆชี้ไปมา ที่ส่วนผสมไข่ขาวนั้นน่ะ) ถ้ายังไม่ตั้งยอดให้ปั่นต่ออีก 30 วินาทีนะ
  5. 5. จากนั้นแบ่งส่วนผสมไข่ขาวที่ได้จากข้อ 4 มาใส่ในชามของเหลวที่ได้พักไว้น่ะ แบ่งมาใส่ประมาณครึ่งนึง แล้วตะล่อมให้เข้ากัน
  6. 6. เมื่อเข้ากันแล้วให้เทส่วนผสมของเหลวที่ตะล่อมได้นั้น ลงในโถไข่ขาวที่ยังเหลืออยู่อีกครึ่งแล้วทำการตะล่อมต่อจนเข้ากันทั้งหมด
  7. 7. เสร็จแล้วให้เทลงในพิมพ์ แล้วให้รีบนำเข้าเตาอบเลย อย่าทิ้งส่วนผสมไว้โดยไม่เอาเข้าอบ นาน เพราะจะทำให้เค้กไม่ฟูนะคะ ตั้งไฟสำหรับอบ 200 C เป็นเวลา 15-17 นาที เท่านี้ก็เรียบร้อย

ปล. ระหว่างอบ อย่าเปิดเตานะคะ มันจะทำให้ตัวเค้กหยุดฟูทันทีเลยล่ะ เพราะความร้อนมันออกจากเตา

IMG_1236IMG_1239IMG_1237

จากนั้นเรามาดูสูตรและวิธีทำ Chocolate ที่ใช่ราดหน้าเค้กกันนะคะ

  • - ผงวุ้น 1 ช้อนชา
  • - น้ำ 150 กรัม
  • - นมจืด(โฟร์โมสต์) 50 กรัม
  • - นมข้นจืด 50 กรัม
  • - น้ำตาลทราบ 100 กรัม
  • - โกโก้ผง 45 กรัม
  • - แป้งข้าวโพด 20 กรัม + นมข้นจืด 25 กรัม (ผสมให้เข้ากันไว้ก่อนเลย)
  • - เนสเล่ครีม 50 กรัม (จะไม่ใส่ก็ได้นะคะ แต่ใส่จะช่วยให้อร่อยยิ่งขึ้นค่ะ)
  • - เนยสดเค็ม 50 กรัม
IMG_1238

วิธีทำก็ง่ายๆ อีกเช่นกัน

นำส่วนผสมทุกอย่างยกเว้น ส่วนผสมของแป้งข้าวโพด, เนสเล่ครีม และ เนยสดเค็ม ใส่ลงกระทะ แล้วนำตั้งไฟอ่อนๆ คนจนเริ่มเดือดให้ใส่ส่วนผสมของแป้งข้าวโพดลงไป คนจนเข้ากันแล้วตามด้วยเนสเล่ครีม คนจนเข้ากันต่อจากนั้นใส่เนยคนให้เข้ากันแล้วปิดไฟค่ะ ระหว่างทำส่วนผสมควรจะคนตลอดเวลานะคะ ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวส่วนผสมจะจับตัวกันเป็นก้อน เวลานำมาราดตัวเค้กอาจจะไม่ค่อยสวยงามได้ค่ะ

ลงมือตกแต่งกันเลยค่ะ

** สูตรนี้ได้เค้ก 2 ปอนด์ 2 ก้อนนะคะ ส่วนผสมของ chocolate ที่ใช้ราดก็พอดีกับเค้ก 2 ก้อนค่ะ

IMG_1241IMG_1246IMG_1244

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สปันจ์ชาเขียว นุ๊มนุ่ม

ได้ผงชาเขียวมาใหม่ อยากลองของใหม่หน่อย เลยต้องจัดสปัน์ชาเขียวมาชิมกันหน่อย

วัตถุดิบที่ใช้ทำเนื้อเค้ก

 

  • แป้งเค้ก           100      กรัม
  • ผงฟู                1          ชช.  
  • เกลือ               1/4       ชช.  
  • เนยละลายอุ่นๆ 80         กรัม
  • นมข้นจืดเย็น     50         กรัม
  • น้ำเย็น             30         กรัม
  • ไข่เบอร์ 1         3          ฟอง
  • น้ำตาล             80         กรัม
  • เอสพี               10         กรัม
  • ผงชาเขียว(มัฉฉะ)  2         ชช.
IMG_1190

วัตถุดิบสำหรับแต่งหน้าเค้กค่ะ

  • วิปครีม 100 กรัม
  • นมข้ม 50 กรัม
  • เกลือ 1/8 ชช.
  • อัลมอนด์อบ 50 กรัม (จะผ่าซีกแบบก้านไม้ขีด หรือสไลด์บางๆก็ได้นะคะ)

วิธีทำก็คล้ายๆกับสปันจ์ตัวอื่นๆค่ะ แตกต่างเล็กน้อยตรงเพิ่มผงชาเขียวเข้ามา ลองเริ่มกันเลยละกันค่ะ

  • ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูและเกลือใส่โถปั่นไว้
  • เทน้ำตาลและนำไข่ใส่ในโถปั่นตามลงไปเลยค่ะ
  • จากนั้นนำเอสพีป้ายที่หัวตระกร้อแล้วจุ่มลงโถปั่น คนๆๆในโถปั่นพอให้ส่วนผสมเข้ากัน
  • นำโถปั่นไปใสเครื่องปั่น ปั่นด้วยความเร็วต่ำ 1 นาทีแล้วปาดรอบโถปั่น จากนั้นปั่นความเร็วสูงอีก 2 นาที ครบแล้วปรับความเร็วต่ำแล้วค่อยๆเทนมข้นจืดสลับกับน้ำเปล่าลงไปในโถ หรือจะผสมนมจืดกับน้ำเปล่าไว้ก่อนเลยก็ได้นะคะ
  • เมื่อใส่นมข้นจืดและน้ำเปล่าเรียบร้อยแล้ว ปั่นด้วยความเร็วสูงอีก 3 นาทีจากนั้นปั่นไล่ฟองอากาศด้วยความเร็วต่ำอีก 3 นาที
  • นำผงชาเขียวใส่ในเนยละลาย คนให้เข้ากัน
  • ค่อยๆเทส่วนผสมของเนยละลายกับชาเขียวลงโถ ออนใส่ทีละช้อนโต๊ะค่ะ รอดูว่าเนื้อส่วนผสมเข้ากันแล้วจึงใส่เนยเรื่อยๆ จนหมดนะคะ ปาดโถอีกสักหน่อยแล้วปั่นต่อ 1 นาที
  • หยุดเครื่องแล้วนำไม้พายปาดรอบโถและตะล่อมให้เข้ากันเทใส่พิมพ์ อย่าลืมสำรวจก้นโถด้วยนะคะ ว่ามีเนยนอนก้นหรือมีส่วนผสมแป้งที่นอนก้นยังไม่เข้ากันหรือเปล่า ถ้ามีอาจจะปาดโถคนให้เข้ากันก่อนนะคะ แล้วจึงค่อยเทใส่พิมพ์
  • เท่านี้ก็พร้อมอบด้วยความร้อน 175 องศา เวลา 15 – 18 นาทีแล้วค่ะ

IMG_1177IMG_1175

ถัดมาก็มาทำครีมแต่งหน้ากันค่ะ

  • เริ่มจากอบเมล็ดอัลมอนด์ประมาณ 10 นาที เสร็จแล้วนำมาสับหยาบๆเป็นก้านไม่ขีด หรือสไลด์บางๆ
  • ระหว่างรอเมล็ดอัลมอนด์ นำวิปครีมมาใส่โถ แล้วเทนมข้นที่เตรียมไว้ตามลงไป พร้อมด้วยเกลือแค่หยิบมือใส่ลงในโถแล้วนำไปปั่นด้วยความเร็วสูงสุด 2 นาที หรือจนครีมข้นจนตั้งยอดก็เป็นอันเสร็จ พร้อมตกแต่งหน้าเค้กกันแล้ว (แอบชิมนิดหน่อย อืมมมม รสชาดนุ่มจริงจิง ^^)
  • ลงมือกันเลย

มาดูผลงานกันหน่อย

IMG_1189IMG_1190IMG_1182

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Almond banana cake

เป็นเค้กอีกอย่างที่ทำง่ายแสนง่ายแล้วยังอร่อยนุ่มลิ้นอีกด้วยค่ะ มาลองดูวัตถุดิบกันหน่อยนะคะ

  • แป้งสาลี  150 กรัม
  • ผงฟู  1/2 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา  1/2 ช้อนชา
  • เกลือ  1/4 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย  120 กรีม
  • เนยละลาย  90 กรัม
  • กล้วยหอมสุกมากบด  2 ลูก
  • ไข่  2 ฟอง
  • โยเกิร์ต  50 กรัม
  • อัลมอนด์ 15 กรัม
IMG_1160

วิธีทำแสนง่าย

  • เริ่มจากร่อนแป้ง+ผงฟู+เบกกิ้งโซดา+เกลือ เข้าด้วยกันแล้วเทใส่โถปั่น
  • จากนั้นเรานำน้ำตาลทรายใส่โถปั่นตามลงไป คนให้ส่วนผสมต่างๆ เข้ากันได้ดี
  • อุ่นเนยให้พอละลายแล้วพักไว้ แนะว่าแค่พออุ่นนะคะ อาจจะยังไม่ต้องละลายจนเหลวก็ได้เพราะเดี๋ยวพักไว้เนยจะละลายต่อเนื่องจากยังมีความร้อนอยู่
  • เริ่มวอร์มเตาค่ะ ตั้งไฟบน 160 องศา ไฟล่าง 180 องศา (ไฟบนน้อยกว่าไฟล่างหน่อยนะคะ ป้องกันหน้าเค้กสีเข้าเกินค่ะ)
  • ระหว่างที่วอร์มเตา เรานำเมล็ดอัลมอนด์เข้าไปอบสัก 5 นาทีนะคะ( ประหยัดไฟไปในตัว ^^ )  แล้วนำออกมาพักไว้ พออัลมอนด์เย็นลง ให้สับเป็นแบบก้านไม้ขีด หรือจะสไลด์บางๆก็ได้นะคะ เตรียมไว้สำหรับโรยหน้าเค้กก่อนเข้าเตาอบค่ะ
  • บดกล้วยหอมให้ละเอียด ส่วนใหญ่ออนจะนำกล้วยหอมใส่ถุงแล้วบี้ค่ะ ง่ายดีและยังละเอียดเร็วดีด้วย
  • ตอกไข่ใส่ลงในโถที่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาลอยู่ ตามด้วยโยเกิร์ตและกล้วยที่เราบดไว้เมื่อกี้ค่ะ
  • เริ่มปั่นด้วยความเร็วต่ำจนส่วนผสมเข้ากัน ระหว่างปั่นอาจจะปาดโถบ้างก็ได้นะคะ เพราะอาจจะมีเศษกล้วยติดอยู่ก้นโถค่ะ
  • เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว เริ่มใส่เนยทีละนิด ปั่นด้วยความเร็วต่ำไปเรื่อยๆ จนเนยหมดและเนื้อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว เทใส่พิมพ์ได้เลยค่ะ
  • โรยอัลมอนด์สับที่เตรียมไว้
  • นำเข้าเตาอบ ตั้งเวลา 30 นาทีนะคะ
  • สูตรนี้ได้เค้กกล้วยหอมแบบคัพประมาณ 10 – 12 ถ้วยนะคะ

ออกมาแล้ว หอมจังเค้กกล้วยหอม

IMG_1159IMG_1161IMG_1165

วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

DIY ตอน Cupcake wrapper

วันก่อนนั่ง search หาถ้วยคัพเค้กลายน่ารักๆ เพื่อจะเอามาทำคัพเค้กทานเล่น search เล่นไปมาก็ไปเจอเข้ากับเจ้า cupcake wrapper โอ้ววววว… น่ารักจัง อยากได้ๆ แต่ราคาแพงเหมือนกันแฮะ เลยเกิดไอเดีย ลองทำขึ้นมาใช้เองบ้างก็น่าจะได้นี่นา ลองค้นๆอุปกรณ์ในครัว แล้ว…. เจอแล้ว My cupcake wrapper มาลงมือทำกันเลย

ก่อนอื่น ก็เตรียมอุปกรณ์ เจ้าอุปกรณ์ก็ไม่ได้หายากอะไร เล็กๆน้อยๆแค่นี้เอง …

  • กระดาษรองฐานเค้ก (ลวดลายตามใจชอบเลยค่ะ)
  • กรรไกร
  • เทปกาวสองหน้า หรือสก๊อตเทปธรรมดาๆ ก็ได้
IMG_1146

ลงมือกันเลย

  • เริ่มจากลองวัดขอบของถ้วยคัพเค้กของเราก่อนว่าเส้นรอบวงเท่าไร
  • จากนั้นก็เริ่มนำมาวัดขนาดกับเจ้ากระดาษรองฐานเค้ก แล้วตัดตามรูปด้านข้างขวานี้เลยนะคะ
  • จากนั้นนำเทปกาวแปะไปที่มุมใดมุมหนึ่งขอบกระดาษรองฐานเค้กที่ตัดเรียบร้อยแล้ว จะขอบซ้ายหรือขวาก็ได้แล้วแต่เราจะถนัดนะคะ
  • ขั้นตอนสุดท้ายก็นำมาพันรอบคัพเค้กของเรา เป็นอันเสร็จ แค่นี้เราก็ได้คัพเค้กสวยๆ แล้ว
IMG_1101
IMG_1135 IMG_1149

คัพเค้กบลูเบอร์รี่



สืบเนื่องมากจาก คราวที่แล้วทำ พายบลูเบอร์รี่แล้ว เจ้าบลูเบอร์รี่เหลือ เลยได้โอกาสทำคัพเค้กบลูเบอร์รี่ซะเลย คัพเค้กสูตรนี้เป็นเนื้อสปันจ์ วิธีทำก็ง่ายแสนง่าย แล้วยังได้เค้กนุ่มๆ ไว้ทานเล่นกันอีก เริ่มกันเลยละกัน

ก่อนอื่นก็มาดูสูตรกันหน่อยนะคะ


วัตถุดิบที่ใช้ทำเนื้อเค้ก
-          แป้งเค้ก           100      กรัม
-          ผงฟู                1          ชช.  
-          เกลือ               1/4       ชช.  
-          เนยละลายอุ่นๆ 80         กรัม
-          นมข้นจืดเย็น     50         กรัม 
-          น้ำเย็น             30         กรัม
-          ไข่เบอร์ 1         3          ฟอง 
-          น้ำตาล             80         กรัม  
-          เอสพี               10         กรัม
วัตถุดิบสำหรับแต่งหน้าเค้กค่ะ
-          วิปครีม   100 กรัม
-          นมข้ม    กรัม
-          เกลือ     1/8 ชช.
-          บลูเบอร์รี่กระป๋อง ปริมาณแล้วแต่ชอบนะคะ แต่ที่ออนเตรียมไว้ก็ประมาณครึ่งกระป๋องค่ะ
สูตรนี้ได้คัพเค้กประมาณ 12-15 คัพ นะคะ
มาเริ่มกันเลยละกันค่ะ
-          ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูและเกลือใส่โถปั่นไว้
-          เทน้ำตาลและนำไข่ใส่ในโถปั่นตามลงไปเลยค่ะ
-          จากนั้นนำเอสพีป้ายที่หัวตระกร้อแล้วจุ่มลงโถปั่น คนในโถปั่นพอให้ส่วนผสมเข้ากัน
-          นำโถปั่นไปใสเครื่องปั่น ปั่นด้วยความเร็วต่ำ 1 นาทีแล้วปาดรอบโถปั่น จากนั้นปั่นความเร็วสูงอีก 2 นาที ครบแล้วปรับความเร็วต่ำแล้วค่อยๆเทนมข้นจืดสลับกับน้ำเปล่าลงไปในโถ
-          เมื่อใส่นมข้นจืดและน้ำเปล่าเรียบร้อยแล้ว ปั่นด้วยความเร็วสูงอีก 3 นาทีจากนั้นปั่นไล่ฟองอากาศด้วยความเร็วต่ำอีก 3 นาที
-          ค่อยๆเทเนยละลายลงโถ ออนใส่ทีละช้อน รอดูว่าเนื้อส่วนผสมเข้ากันแล้วจึงใส่เนยเรื่อยๆ จนหมดนะคะ แล้วปั่นต่อ 1 นาที
-          หยุดเครื่องแล้วนำไม้พายปาดรอบโถและตะล่อมให้เข้ากันเทใส่พิมพ์ ตรงจุดนี้ เราอาจจะต้องสำรวจก้นโถด้วยนะคะ ว่ามีเนยนอนก้นหรือมีส่วนผสมที่นอนก้นยังไม่เข้ากันหรือเปล่า ถ้ามีอาจจะปาดโถคนให้เข้ากันก่อนนะคะ แล้วจึงค่อยเทใส่พิมพ์
-          เท่านี้ก็พร้อมอบด้วยความร้อน 175 องศา เวลา 15 – 18 นาทีแล้วค่ะ (อุณหภูมิและระยะเวลาอาจจะแตกต่างกันขึ้นกับเครื่องอบนะคะ ของออนเครื่องอบเล็กๆ อบแค่ 12 ถ้วย ก็ใช้แค่ 15 นาที สีของเค้กที่ออกมาก็อย่างที่เห็นเนี่ยแหละค่ะ (แอบมีหน้าแตกนิดหน่อย หุหุ)




อบเสร็จแล้วก็มาทำครีมแต่งหน้าเค้กกันหน่อยนะคะ
-          เริ่มจากนำวิปครีมมาใส่โถ แล้วเทนมข้นที่เตรียมไว้ พร้อมด้วยเกลือแค่หยิบมือใส่ลงในโถแล้วนำไปปั่นด้วยความเร็วสูงสุด ประมาณ 3 นาที หรือจนครีมข้นจนตั้งยอดตามรูปนะคะ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ พร้อมตกแต่งหน้าเค้กกันแล้ว



ได้เวลาชิมกันแล้ว^^